จริยธรรมทางคอมพิวเตอร์และ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ความหมายจริยธรรมคอมพิวเตอร์
หลักเกณฑ์ที่ประชาชนตกลงร่วมกันเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติร่วมกัน
หรือ หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติหรือควบคุมการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ
การกระทำที่ผิดจริยธรรม
1.การใช้คอมพิวเตอร์ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย
หรือก่อความรำคาญ
2.การใช้คอมพิวเตอร์ในการขโมยข้อมูล
3.การเข้าถึงข้อมูลหรือใช้คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
จริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information
Technology: IT)
1. ความเป็นส่วนตัว (Information
Privacy)
- การเข้าไปดูข้อความใน E-mail
- การใช้เทคโนโลยีในการติดตามความ
เคลื่อนไหวหรือพฤติกรรม
- การใชข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่างๆ
เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด
- การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่เมล์
หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัว
2. ความถูกต้อง (Information
Accuracy)
3. ความเป็นเจ้าของ (Intellectual
Property)
4. การเข้าถึงข้อมูล (Data
Accessibility
การกระทำผิดจริยธรรมและผิดกฎหมาย
- การละเมิดลิขสิทธิ์ปลอมแปลง เลียนแบบระบบซอพต์แวร์โดยมิชอบ
- ใช้คอมพิวเตอร์แพร่ภาพ เสียงลามกอนาจารและข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
- ใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
- ไปก่อกวน ทำลายระบบสาธารณูปโภคเช่น ระบบจ่ายน้ำ จ่ายไฟ ระบบการจราจร
- หลอกลวงให้ร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 กฎหมายลขิสทิธิ์ของประเทศไทยให้ความคุ้มครองแก่งานที่ทำเสร็จแล้วทุกงาน
โดยไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงการสงวนลขิสทิธิ์ หรือดำเนินการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ งานนั้นเป็นการให้ความคุ้มครองโดยอัตโนมัติ
โปรแกรมคอมพิวเตอร์สื่อดิจิตอล บทความบนเว็บ เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์
การละเมิดลิขสิทธิ์ ทำซ้ำหรือดัดแปลง
เผยแพร่ต่อสาธารณชน ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าว
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
- วิจัยหรือศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
- ใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
- ติชม
วิจารณ์หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ใน โปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
- เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์พ.ศ.2544 พรบ.ฉบับนี้มุ่งเน้นการกำหนดให้ผลทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลเทียบเท่ากับข้อมูลในรูปแบบกระดาษ
(Functional
– equivalent Approach) ความเป็นกลางทางเทคโนโลยีหรือความเป็นกลางของสื่อ
(Technology Neutrality/Media Neutrality) รวมไปถึงความศักดิ์สิท
ธิ์ในการแสดงเจตนา (Party Autonomy) โดยพรบ.ฉบับนี้จะเข้ามามีผลในการบังคับ
ใช้ควบคู่ไปกับกฎหมายฉบับอื่นที่มีอยู่แล้วมิได้เข้ามาแทนที่การบังคับใช้ กฎหมายฉบับอื่น
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท
าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550
ลักษณะความผิด
1. การกระทำต่อระบบคอมพิวเตอร์
- การเข้าถึงระบบ (มาตรา 5)
- การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบ
(มาตรา 6)
- การรบกวนระบบ (มาตรา 10)
2. การกระทำต่อข้อมูลคอมพวิเตอร์
- การเข้าถึงข้อมูล
(มาตรา 7)
- การดักข้อมูล (มาตรา 8)
- การรบกวนข้อมูล (มาตรา 9)
- สแปมเมล์ (มาตรา 11)
- การน
าเข้า/เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (มาตรา 14)
- การเผยแพร่ภาพตัดต่อในลักษณะหมิ่นประมาท
(มาตรา 16)
3. การกระทำผิดต่อความมั่นคง
(มาตรา 12)
4. การใช้ชุดคำสั่งกระทำความผิด
(มาตรา 13)
5. การกระทำความผิดของผู้ให้บริการ
(มาตรา 15, มาตรา 26)
6. การเปิดเผยข้อมูลของพนักงานเจ้าหน้าที่
(มาตรา 24)
ตัวอย่างมาตราการกระทำผิด
1. การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
โทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
6
เดือน หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบ
มาตรา 6 ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านามาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผุ้อื่น
โทษ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
3. การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและ
มาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
โทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน
สี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
4. การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา 8 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
ที่อยู่ระหว่างการส่งใน ระบบคอมพิวเตอร์และ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือเพื่อ ให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได
โทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกิน หกหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
5. การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์
มาตรา 9 ผู้ใดทำให้เสียหายทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ
โทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. สแปมเมล์(Spam Mail)
มาตรา 11 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอม
แปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าวอันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข
โทษ
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
ข้อแนะนำสำหรับผู้
ใช้บริการ
- อย่าบอก password ตนเองแก่บุคคลอื่น
- อย่านำ user ID และ password ของบุคคล
อื่นมาใช้งานหรือเผยแพร่
- อย่าส่ง (send) หรือส่งต่อ (forward) ภาพ ข้อความ หรือภาพเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมาย
- อย่าให้ บุคคลอื่นที่ไม่รู้จักมายืมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์
- การติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายควรจะมีระบบ ป้องกันมิให้บุคคลอื่นแอบใช้งานโดยมิได้รับ
อนุญาต
เอกสารอ้างอิง
https://e.edim.co/14589017/ch-15_1.pdf?response-content-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น