วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

ทุนทางสังคมกับการพัฒนา (วิชาเอก ทุนทางสังคม)

ทุนทางสังคมกับการพัฒนา
ความหมายของ ทุนทางสังคม  
ปรีดี พนมยงค์ นักวิชาการไทยท่านแรกที่ให้ความหมายของทุนทางสังคมว่า ทุนทางสังคมที่มีอยู่ในสังคมไทย ทั้งในส่วนที่เป็นหลักการ และที่เป็นวิถีของคนไทย โดยทั้งสองส่วนที่ถูกนำเสนอสามารถพิจารณาได้ในรูปของกระบวนการทางสังคม อาทิ ในส่วนที่เป็นหลักของสหกรณ์ โดยท่านได้นำเสนอให้เห็นถึงขั้นตอนของระบบความคิด ที่เป็นเรื่องของแนวคิดสหกรณ์ที่เน้นรวมคนมากกว่าการรวมเงิน เน้นความสามัคคีของสมาชิกในชุมชน ซึ่งระบบคิดนี้จะมีผลต่อขั้นตอนการปฏิบัติ ทำให้เกิดกลุ่มสหกรณ์ เกิดการร่วมมือกันทำกิจกรรมของสมาชิก และส่งผลลัพธ์อันได้แก่ ความเป็นปึกแผ่นของสมาชิกกลุ่มสหกรณ์ และความสามารถในการแก้ไขปัญหาของกลุ่ม ในส่วนที่เป็นวิถีชีวิต ก็ได้นำเสนอถึงขั้นตอนที่เป็นระบบความคิดที่เกี่ยวกับค่านิยมอันเป็นประเพณีที่มีการสืบทอดต่อกันมาจากบรรพชน ที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีความสัมพันธืแบบพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และส่งผลต่อผลลัพธ์ คือทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้
เอนก นาคบุตร ( 2545 ) กล่าวถึงทุนทางสังคมในลักษณะของความเข้มแข็งของชุมชนว่า ทุนทางสังคม คือพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนชุมชนต่างๆให้มีความสามารถในการเพิ่มมูลค่า และทุนทางสังคมให้กับชุมชนตนเองมากขึ้น มีความเม่ามันต่อปัญหา และมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาได่มากขึ้น และท้ายสุดจะสามารถพึ่งพาตนเองได้จริงในระยะยาว
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม (2542) อธิบายว่า ทุนทางสังคมเป็นนามธรรม หมายถึงความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น ความสามัคคี รวมพลัง การมีองค์กร มีหน่วยที่จะจัดการ จัดระบบต่างๆในชุมชน มีศิลปวัฒนธรรม มีจุดรวมใจ มีศีลธรรม มีความรักสมัครสมานรักใคร่กลมเกลียวกัน สิ่งต่างๆเหล่านี้เรียกว่า เป็นทุนทางสังคม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในท้องถิ่น และชุมชนให้มีการพัฒนาที่เข้มแข็ง
ประเวศ วะสี (2542) มองว่าทุนทางสังคมเป็นพลังทางสังคมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคมได้ โดยให้ความหมายทุนทางสังคมว่า การที่คนมารวมกัน เอาความดี ความรู้ มารวมกัน  เพื่อแก้ไขปัญหาของสังคม
อานันท์ กาญจพันธุ์ (2541) กล่าวถึงทุนทางสังคม คือ วิธีคิด และระบบความรู้ในการจัดการวิถีของความเป็นชุมชน เช้น การจัดการทรัพยากร ระบบความสัมพันธ์ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมชุมชน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับธรรมชาติ หรือมนุษย์กับระบบความรู้ ภูมิปัญญา อีทั้งต้องอาศัยหลักกฎเกณฑ์มากำกับการใช้ความรู้นั้น และนอกขากนี้ยังกล่าวถึงทุนทางสังคมที่เป็นเสมือนทุนทางสังคมเดิมของไทย โดยมิติทางวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่ชุมชนพยายามจะรื้อฟื้นขึ้นมาเพราะมีนัยสำคัญทางสังคม เพื่อประโยชน์ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการปลูกจิตสำนึก หรือรักษาสำนึกของชุมชน และทรัพยากรที่ชุมชนต้องอิงอาศัย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ลำคลอง ป่าต้นน้ำ              
          ส่วนแนวคิดทุนทางสังคมที่ได้ถูกนำมากล่าวถึงอย่างจริงจังนั้น เริ่มขึ้นเมื่อปี 2540 โดยได้มีการจัดตั้งสำนักงานกองทุนเพื่อสังคม หรือ SIF โครงการของกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคมดังกล่าวพยามและทำให้สังคมไทยได้หันกลับไปมองคุณค่าที่เคยมีอยู่ ที่เป็นทุนเดิม แต่อาจถูกมองข้ามไป รวมทั้งสิ่งที่มีอยู่ในตัวบุคคล เช่นความมีน้ำใจ ความเอื้ออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นต้น นอกจากนั้น กองทุนฯ ยังพิจจารณาสิ่งที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบรรพชน เช่น ภูมิปัญญา ประเพณี ความเชื่อ และวัฒนธรรม ที่มีอยู่ในชุมชน รวมทั้งสิ่งที่เคยเป็นศักยภาพในการพัฒนาของชุมชน เช่น ผู้นำ กลุ่ม องค์กรประชาชน เครือข่าย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้เกิดการฟื้นฟูทุนทางสังคมที่มีอยู่ และเริ่มสูญหายให้มีการนำกลับมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ในระดับชุมชน และหลังจากนั้น คำว่าทุนทางสังคมในประเทศไทยก็ได้ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
            กล่าวโดยสรุป การเข้าใจในทุนทางสังคมมีส่วนช่วยในการคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ในรูปแบบของสังคมในอนาคต การก่อให้เกิดทุนทางสังคมมีความยืดหยุ่นสูง เพราะสามรถเริ่มได้ทุกระดับ เช่น ระดับบุคคล ครอบครัว เครือญาติ กลุ่ม องค์กร สถาบัน ชุมชน หรือเครือข่าย ทุนทางสังคมสามารถต่อยอดจากสิ่งเดิมที่มีอยู่  เช่น ค่านิยม วัฒนธรรม หรือเป็นการเรียนรู้จากสิ่งใหม่ การเกิดทุนทางสังคมแม้จะเริ่มจากปัจจัยภายใน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธปัจจัยภายนอก ที่สำคัญทุนทางสังคมเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงระบบความคิด และวิธีปฏิบัติของบุคคล หรือกลุ่มคนบนหลักแห่งศีลธรรม โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การจัดสรร และการกระจาย ทรัพยากรในหมู่สมาชิก เป็นธรรม อันจะนำไปสู่การสร้างพลังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชุมชนให้ลุล่วงไปได้
                และอยากจะยกประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนา คือแนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการ ในการจัดการทุนทางสังคม มีความต้องการองค์ความรู้ และมุมมองใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งได้ประยุกต์แนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับทฤษฎีการบูรณาการของ เคน วิลเบอร์ มาช่วยในการวิเคราะห์ และอธิบาย
แนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการ
                ในมิติของการบูรณาการทำให้เห็นธรรมชาติของทุนทางสังคมากขึ้น และทำใหมีความเข้าใจถึงสถานภาพต่างๆ ของทุนทางสังคมไม่ว่าจะเป็นการเกิด การคงอยู่ และการสูญหายไปของภาวะที่เป็นทุนทางสังคมได้ชัดเจนมากขึ้น
            จากทฤษฎีบูรณาการ ( Integral Theory) ของเคน วิลเบอร์ ได้ให้กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาการของมนุษย์จากปัจเจก “ I ” ไปสู่กลุ่ม “ WE ” ซึ่งเป็นการพัฒนาจากภายใน ในขณะเดียวกัน ทฤษฎีดังกล่าวยังให้ภาพการพัฒนามนุษย์ทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการพัฒนาจากกลุ่ม ไปสู่ความเป็นชาติ และความเป็นสากล อันเป็นการพัฒนาจากภายนอกตัวบุคคล พัฒนาการดังกล่าวทำให้การอธิบายทุนทางสังคม ซึ่งเป็นระบบความสัมพันธ์ทางสังคม ระหว่างคน กับคน คนกับสถาบันทและคนกับสิ่งแวดล้อม มีความเป็นระบบและความชัดเจนมากขึ้น ข้อค้นพบเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่า การจัดการทุนทางสังคมมีความเป็นรูปธรรม และเป็นไปได้มากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับระบบความคิด และวิธีปฏิบัติของบุคคลจาการมุ่งประโยชน์ส่วนตน ไปสู่การมุ่งช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความเอื้ออาทรต่อกัน โดยเน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม การพัฒนาด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าวทำให้เห็นถึงพลังของจิตที่สามารถรับรู้ และเปลี่ยนแปลงความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้ และสามารถพัฒนายกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สามารถเปลี่ยนแปลงระบบความคิด และวิธีปฏิบัติจากความเห็นแก่ตัว มาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดระบบความสัมพันธ์ทางสังคมที่มุ่งไปสู่การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันของคนในสังคม
             ทุนทางสังคมกับการพัฒนา
จะเห็นได้ว่าทุนทางสังคมเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วโดยธรรมชาติในสังคมเป็นทุนทรัพยกร ที่ช่วยให้เกิดเครือข่ายทางสังคม เช่นกลุ่มอาชีพ กลุ่มเลี้ยงปลาในกระซัง กลุ่มทอเสื่อกก กลุ่มเกษตรกร ซึ่งสมาชิกในกลุ่มที่ร่วมใจกันทำงานจะทำให้งานมีประสิทธิภาพรวดเร็ว และลดต้นทุน ช่วยทำให้เกิดจารีพประเพณีที่ดี เช่น งานแห่เรือ งานบวชต้นไม้ ที่ช่วยให้ชุมชนมีพลังเข้มแข็งสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น ทุนทางสังคมช่วยให้บุคคลมีทางเลือกมากขึ้น ในการพัฒนาชีวิตส่วนบุคคล หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ
            นอกจากนี้ยังมีการมีการถ่ายทอด การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ในชุมชน หรือจากผู้ที่มีความรู้ มีส่วนร่วมการใช้ทุนทางสังคมเป็นตัวเชื่อมกับกิจกรรมการพัฒนาชุมชน จะทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ ร่วมกันเกิดเป็นพลังในการขับเคลื่อนชุมชนทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
            ทุนทางสังคมจากมุมมองของทฤษฎีบูรณาการทำให้เห็นการพัฒนาที่เกิดขึ้น และเป็นไปในสองทิศทาง คือการพัฒนาภายใน ด้วยการยกระดับจิตใจ ให้หลุดพ้นจาก ตัวกู ไปสู่ความเป็นกลุ่ม และการพัฒนาภายนอก โดยสานต่อจากกลุ่มไปสู่ความเป็นชาติ และความเป็นสากล กรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาดังกล่าว เพื่อช่วยให้คำอธิบาย ทุนทางสังคม ในวิถีตะวันออกมีความเป็นระบบ และรูปธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกระบวนการปรับเปลี่ยนความคิด และวิธีปฏิบัติของบุคคล ที่เปลี่ยนจากการมุ่งประโยชน์ส่วนตน ไปสู่การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความเอื้ออาทร


ทุนทางสังคมกับการพัฒนา
ความหมายของ ทุนทางสังคม  
ปรีดี พนมยงค์ นักวิชาการไทยท่านแรกที่ให้ความหมายของทุนทางสังคมว่า ทุนทางสังคมที่มีอยู่ในสังคมไทย ทั้งในส่วนที่เป็นหลักการ และที่เป็นวิถีของคนไทย โดยทั้งสองส่วนที่ถูกนำเสนอสามารถพิจารณาได้ในรูปของกระบวนการทางสังคม อาทิ ในส่วนที่เป็นหลักของสหกรณ์ โดยท่านได้นำเสนอให้เห็นถึงขั้นตอนของระบบความคิด ที่เป็นเรื่องของแนวคิดสหกรณ์ที่เน้นรวมคนมากกว่าการรวมเงิน เน้นความสามัคคีของสมาชิกในชุมชน ซึ่งระบบคิดนี้จะมีผลต่อขั้นตอนการปฏิบัติ ทำให้เกิดกลุ่มสหกรณ์ เกิดการร่วมมือกันทำกิจกรรมของสมาชิก และส่งผลลัพธ์อันได้แก่ ความเป็นปึกแผ่นของสมาชิกกลุ่มสหกรณ์ และความสามารถในการแก้ไขปัญหาของกลุ่ม ในส่วนที่เป็นวิถีชีวิต ก็ได้นำเสนอถึงขั้นตอนที่เป็นระบบความคิดที่เกี่ยวกับค่านิยมอันเป็นประเพณีที่มีการสืบทอดต่อกันมาจากบรรพชน ที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีความสัมพันธืแบบพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และส่งผลต่อผลลัพธ์ คือทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้
เอนก นาคบุตร ( 2545 ) กล่าวถึงทุนทางสังคมในลักษณะของความเข้มแข็งของชุมชนว่า ทุนทางสังคม คือพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนชุมชนต่างๆให้มีความสามารถในการเพิ่มมูลค่า และทุนทางสังคมให้กับชุมชนตนเองมากขึ้น มีความเม่ามันต่อปัญหา และมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาได่มากขึ้น และท้ายสุดจะสามารถพึ่งพาตนเองได้จริงในระยะยาว
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม (2542) อธิบายว่า ทุนทางสังคมเป็นนามธรรม หมายถึงความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น ความสามัคคี รวมพลัง การมีองค์กร มีหน่วยที่จะจัดการ จัดระบบต่างๆในชุมชน มีศิลปวัฒนธรรม มีจุดรวมใจ มีศีลธรรม มีความรักสมัครสมานรักใคร่กลมเกลียวกัน สิ่งต่างๆเหล่านี้เรียกว่า เป็นทุนทางสังคม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในท้องถิ่น และชุมชนให้มีการพัฒนาที่เข้มแข็ง
ประเวศ วะสี (2542) มองว่าทุนทางสังคมเป็นพลังทางสังคมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคมได้ โดยให้ความหมายทุนทางสังคมว่า การที่คนมารวมกัน เอาความดี ความรู้ มารวมกัน  เพื่อแก้ไขปัญหาของสังคม
อานันท์ กาญจพันธุ์ (2541) กล่าวถึงทุนทางสังคม คือ วิธีคิด และระบบความรู้ในการจัดการวิถีของความเป็นชุมชน เช้น การจัดการทรัพยากร ระบบความสัมพันธ์ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมชุมชน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับธรรมชาติ หรือมนุษย์กับระบบความรู้ ภูมิปัญญา อีทั้งต้องอาศัยหลักกฎเกณฑ์มากำกับการใช้ความรู้นั้น และนอกขากนี้ยังกล่าวถึงทุนทางสังคมที่เป็นเสมือนทุนทางสังคมเดิมของไทย โดยมิติทางวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่ชุมชนพยายามจะรื้อฟื้นขึ้นมาเพราะมีนัยสำคัญทางสังคม เพื่อประโยชน์ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการปลูกจิตสำนึก หรือรักษาสำนึกของชุมชน และทรัพยากรที่ชุมชนต้องอิงอาศัย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ลำคลอง ป่าต้นน้ำ              
          ส่วนแนวคิดทุนทางสังคมที่ได้ถูกนำมากล่าวถึงอย่างจริงจังนั้น เริ่มขึ้นเมื่อปี 2540 โดยได้มีการจัดตั้งสำนักงานกองทุนเพื่อสังคม หรือ SIF โครงการของกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคมดังกล่าวพยามและทำให้สังคมไทยได้หันกลับไปมองคุณค่าที่เคยมีอยู่ ที่เป็นทุนเดิม แต่อาจถูกมองข้ามไป รวมทั้งสิ่งที่มีอยู่ในตัวบุคคล เช่นความมีน้ำใจ ความเอื้ออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นต้น นอกจากนั้น กองทุนฯ ยังพิจจารณาสิ่งที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบรรพชน เช่น ภูมิปัญญา ประเพณี ความเชื่อ และวัฒนธรรม ที่มีอยู่ในชุมชน รวมทั้งสิ่งที่เคยเป็นศักยภาพในการพัฒนาของชุมชน เช่น ผู้นำ กลุ่ม องค์กรประชาชน เครือข่าย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้เกิดการฟื้นฟูทุนทางสังคมที่มีอยู่ และเริ่มสูญหายให้มีการนำกลับมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ในระดับชุมชน และหลังจากนั้น คำว่าทุนทางสังคมในประเทศไทยก็ได้ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
            กล่าวโดยสรุป การเข้าใจในทุนทางสังคมมีส่วนช่วยในการคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ในรูปแบบของสังคมในอนาคต การก่อให้เกิดทุนทางสังคมมีความยืดหยุ่นสูง เพราะสามรถเริ่มได้ทุกระดับ เช่น ระดับบุคคล ครอบครัว เครือญาติ กลุ่ม องค์กร สถาบัน ชุมชน หรือเครือข่าย ทุนทางสังคมสามารถต่อยอดจากสิ่งเดิมที่มีอยู่  เช่น ค่านิยม วัฒนธรรม หรือเป็นการเรียนรู้จากสิ่งใหม่ การเกิดทุนทางสังคมแม้จะเริ่มจากปัจจัยภายใน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธปัจจัยภายนอก ที่สำคัญทุนทางสังคมเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงระบบความคิด และวิธีปฏิบัติของบุคคล หรือกลุ่มคนบนหลักแห่งศีลธรรม โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การจัดสรร และการกระจาย ทรัพยากรในหมู่สมาชิก เป็นธรรม อันจะนำไปสู่การสร้างพลังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชุมชนให้ลุล่วงไปได้

ทุนทางสังคมกับการพัฒนา
จะเห็นได้ว่าทุนทางสังคมเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วโดยธรรมชาติในสังคมเป็นทุนทรัพยกร ที่ช่วยให้เกิดเครือข่ายทางสังคม เช่นกลุ่มอาชีพ กลุ่มเลี้ยงปลาในกระซัง กลุ่มทอเสื่อกก กลุ่มเกษตรกร ซึ่งสมาชิกในกลุ่มที่ร่วมใจกันทำงานจะทำให้งานมีประสิทธิภาพรวดเร็ว และลดต้นทุน ช่วยทำให้เกิดจารีพประเพณีที่ดี เช่น งานแห่เรือ งานบวชต้นไม้ ที่ช่วยให้ชุมชนมีพลังเข้มแข็งสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น ทุนทางสังคมช่วยให้บุคคลมีทางเลือกมากขึ้น ในการพัฒนาชีวิตส่วนบุคคล หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ
            นอกจากนี้ยังมีการมีการถ่ายทอด การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ในชุมชน หรือจากผู้ที่มีความรู้ มีส่วนร่วมการใช้ทุนทางสังคมเป็นตัวเชื่อมกับกิจกรรมการพัฒนาชุมชน จะทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ ร่วมกันเกิดเป็นพลังในการขับเคลื่อนชุมชนทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
                และอยากจะยกประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนา คือแนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการ ในการจัดการทุนทางสังคม มีความต้องการองค์ความรู้ และมุมมองใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งได้ประยุกต์แนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับทฤษฎีการบูรณาการของ เคน วิลเบอร์ มาช่วยในการวิเคราะห์ และอธิบาย

แนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการ
                ในมิติของการบูรณาการทำให้เห็นธรรมชาติของทุนทางสังคมากขึ้น และทำใหมีความเข้าใจถึงสถานภาพต่างๆ ของทุนทางสังคมไม่ว่าจะเป็นการเกิด การคงอยู่ และการสูญหายไปของภาวะที่เป็นทุนทางสังคมได้ชัดเจนมากขึ้น
            จากทฤษฎีบูรณาการ ( Integral Theory) ของเคน วิลเบอร์ ได้ให้กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาการของมนุษย์จากปัจเจก “ I ” ไปสู่กลุ่ม “ WE ” ซึ่งเป็นการพัฒนาจากภายใน ในขณะเดียวกัน ทฤษฎีดังกล่าวยังให้ภาพการพัฒนามนุษย์ทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการพัฒนาจากกลุ่ม ไปสู่ความเป็นชาติ และความเป็นสากล อันเป็นการพัฒนาจากภายนอกตัวบุคคล พัฒนาการดังกล่าวทำให้การอธิบายทุนทางสังคม ซึ่งเป็นระบบความสัมพันธ์ทางสังคม ระหว่างคน กับคน คนกับสถาบันทและคนกับสิ่งแวดล้อม มีความเป็นระบบและความชัดเจนมากขึ้น ข้อค้นพบเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่า การจัดการทุนทางสังคมมีความเป็นรูปธรรม และเป็นไปได้มากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับระบบความคิด และวิธีปฏิบัติของบุคคลจาการมุ่งประโยชน์ส่วนตน ไปสู่การมุ่งช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความเอื้ออาทรต่อกัน โดยเน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม การพัฒนาด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าวทำให้เห็นถึงพลังของจิตที่สามารถรับรู้ และเปลี่ยนแปลงความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้ และสามารถพัฒนายกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สามารถเปลี่ยนแปลงระบบความคิด และวิธีปฏิบัติจากความเห็นแก่ตัว มาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดระบบความสัมพันธ์ทางสังคมที่มุ่งไปสู่การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันของคนในสังคม 























 อ้างอิง

วรวุฒิ โรมรัตนพันธ์.2548. ทุนทางสังคม.กรุงเทพมหานคร.เดือนตุลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น